AWS ชูคลาวด์ต้องเขียว แม่เหล็กใหม่แห่งยุค AI แทรกซึมไปทั่วโลก
AWS ชูคลาวด์ต้องเขียว แม่เหล็กใหม่แห่งยุค AI แทรกซึมไปทั่วโลก

AWS ชูคลาวด์ต้องเขียว แม่เหล็กใหม่แห่งยุค AI แทรกซึมไปทั่วโลก AWS เน้นย้ำในวันนี้ว่า “ความยั่งยืนทั่วโลก” กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างจริงจังในการตัดสินใจเลือกใช้การประมวลผลแบบคลาวด์
แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่ความเร็ว ความเสถียร ความปลอดภัย หรือต้นทุนเพียงอย่างเดียว นี่เป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของแอป และการเปรียบเทียบจะเริ่มขึ้นว่าระบบใดจะช่วยให้แอปเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อิทธิพลระลอกใหม่จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนเพื่อเศรษฐกิจสีเขียวทั่วโลกมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ อาเซียน
จุดเปลี่ยนนี้มีโอกาสที่จะส่งพลังบวก หน่วยงาน AWS “Amazon.com Inc” (Amazon.com Inc) รายงานการเติบโตของยอดขายและกำไรที่สูงกว่าที่คาดไว้สำหรับไตรมาสที่สองของปี 2023 ล่าสุดราคาหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้น 9% ทำให้มูลค่าตลาดพุ่งสูงขึ้น ขนาดของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 ล้านดอลลาร์
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Amazon รักษาตำแหน่งในฐานะผู้ให้บริการระบบคลาวด์และผู้ค้าปลีกออนไลน์ชั้นนำของโลก จนกระทั่งสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 11% เป็น 134,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าความคาดหวังของนักวิเคราะห์ที่ 131,500 ล้านดอลลาร์

แม้ว่าธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งของ Amazon หรือ Amazon Web Services (AWS) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพาบริษัทแม่ขยายอาณาจักร แต่การเติบโตของยอดขายในหน่วยธุรกิจ AWS มีสัญญาณชะลอตัว โดยเพิ่มขึ้น 12% เป็น 22.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลงประมาณ 16% เมื่อเทียบเป็นรายปี การใช้บริการคลาวด์ของ AWS เพิ่มขึ้นเนื่องจากความมุ่งมั่นระยะยาวของ AWS
ในการให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความยั่งยืนของคลาวด์เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พลังงานหมุนเวียน การควบคุมน้ำ และการลดของเสียจะช่วยให้ AWS สามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นได้ดีขึ้นในอนาคต และ AWS จะต้องหาทางที่จะได้หลักมากขึ้นในภูมิภาคที่มีการเติบโตใหม่ เช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จุดยืนที่ชัดเจนของ AWS ในขณะนี้คือการมุ่งเน้นไปที่การลงทุนขนาดใหญ่ในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย AWS เพิ่งจัดงาน AWS Cloud Day ที่ศูนย์สิริกิติ์เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2566 ต่อจากงานในอินโดนีเซียและเวียดนามในปีที่แล้ว ด้วยจำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 2,000 คน ทำลายสถิติงานที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้คลั่งไคล้คลาวด์คอมพิวติ้งในประเทศไทย

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการประจำประเทศของ AWS กล่าวบนเวทีว่า: “ปี 2023 เป็นเหตุการณ์สำคัญหลังจากปี 2006 เมื่อ Jeff Bezos และทีมผู้ก่อตั้ง AWS ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ IT แพร่หลาย เข้าถึงได้ และใช้งานได้สำหรับทุกคน” ทั้งหมดนี้สะท้อนความจริงที่ว่า AWS มี มาไกลจากการใช้เป็นสตาร์ทอัพ วันนี้องค์กรเริ่มต้นกลายเป็นยูนิคอร์น และองค์กรขนาดใหญ่ในภาคการเงินและโทรคมนาคมก็มีอัตราการใช้งานคลาวด์ที่สูงมาก เช่นเดียวกับรัฐบาล SME จำนวนมากขึ้นใช้คลาวด์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
วัตสันมองว่าคลาวด์เป็นปัจจัยยอดนิยมที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ รับมือกับวิกฤตที่เผชิญอยู่ได้ ไม่ต้องเสียเวลาสั่งซื้อเซิร์ฟเวอร์หลายเดือน สิ่งนี้ช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยืดหยุ่นโดยการทำงานจากทุกที่ ที่สำคัญยังสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลขององค์กร รวมถึงเทรนด์ที่กำลังมาแรง เช่น ปัญญาประดิษฐ์เชิงกำเนิด ซึ่งคลาวด์จะเป็นหัวใจของทุกสิ่ง

กรรมการผู้จัดการ “The Corner McNamara” ของ AWS กล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และการลงทุนอย่างต่อเนื่องของ AWS ในภูมิภาคนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงผลักดันที่ AWS มองเห็น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (SCG) เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใช้เทคโนโลยี AWS เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่โดยย้ายการดำเนินงานที่มีอยู่ไปยังระบบคลาวด์ จนทำให้ระบบสามารถทำธุรกรรมนับหมื่นรายการต่อวินาทีได้อย่างราบรื่น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เมื่อสองปีที่แล้ว SCG เริ่มทำงานร่วมกับ AWS ในบริการ IoT ซึ่งเชื่อว่าจะเข้ามาแทนที่แอปพลิเคชันในอนาคตและมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น (ทำงานที่เอดจ์) ดังนั้น เอสซีจีและ AWS จึงร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนการปรับใช้ IoT ในบ้านอัจฉริยะมากกว่า 50,000 แห่งในประเทศไทย รู้ว่าเซ็นเซอร์หลายแสนตัวในบ้านทุกหลังยังคงปลอดภัยและทำงานอยู่

ใน Human Creation Corner กล่าวว่าบริษัทให้ความสำคัญกับพนักงานบนระบบคลาวด์ทั่วอาเซียนตั้งแต่ปี 2560 เพื่อให้ผู้บริหารในองค์กรไม่หลงว่าผู้เข้าอบรมต้องมีความรู้ด้านเทคนิคเท่านั้น ทำให้ Cloud Education ประสบความสำเร็จอย่างมากทั่วทั้งภูมิภาค การเริ่มต้นธุรกิจไม่ใช่เรื่องเกินจริงจนคุณเชื่อว่าการใช้คลาวด์เปลี่ยนแปลงสังคมได้
สำหรับความยั่งยืน AWS ตั้งข้อสังเกตว่าองค์กรมองว่าเป็นทางแยกสองทาง ไม่ใช่แค่ทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นเท่านั้น แต่ธุรกิจอีกส่วนหนึ่งก็ต้องหาจุดสมดุลกับการเติบโตเชิงพาณิชย์ด้วย
สถานการณ์นี้อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่มีมุมมองที่แตกต่างจากประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยระบุว่าความยั่งยืนจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน แต่ประเทศกำลังพัฒนาอาจมองว่าการกำจัดการลงทุนเป็นภาระ
ติดตามเรื่องไอทีต้องรู้ : ข่าววงการไอที
ติดตามเทคโนโลยีเพิ่มเติม : guruit