3 แกนยกระดับขององค์กร พร้อมกับตั้งรับภัยไซเบอร์
3 แกนยกระดับขององค์กร พร้อมกับตั้งรับภัยไซเบอร์

3 แกนยกระดับขององค์กร พร้อมกับตั้งรับภัยไซเบอร์ ในโลกปัจจุบันมีการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ ในขณะที่เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การพัฒนาฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ เป็นต้น
แต่ทุกวันนี้ วิธีการโจมตีทางไซเบอร์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวจึงอาจปกป้ององค์กรได้ไม่มากนัก
วันนี้ OPEN-TEC แพลตฟอร์มแบ่งปันความรู้ด้านเทคนิคภายใต้การดูแลของ TCC TECHNOLOGY GROUP ที่รวบรวมความรู้จากประสบการณ์การเป็นผู้ดูแลระบบและที่ปรึกษาขององค์กรชั้นนำ การเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ องค์กรจำเป็นต้องจัดการความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สามคอร์ที่ควรนำมาใช้คือ คน กระบวนการ และเทคโนโลยี โดยเฉพาะคน (คน) เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก

จากการศึกษาสถิติการโจมตีทางไซเบอร์ สาเหตุหลักประการหนึ่งคือความผิดพลาดหรือการตัดสินใจที่เกิดขึ้นเนื่องจาก “คน” ขาดความรู้ในการจัดการกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
องค์กรสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดข้อผิดพลาดได้ ข้อผิดพลาดนี้มี 3 วิธี: 1. Awareness Training การฝึกอบรมบุคลากรเกี่ยวกับความรู้ด้านความปลอดภัยและความเข้าใจในการใช้ทรัพยากรสารสนเทศภายในองค์กรสามารถช่วยลดโอกาสในการถูกโจมตีทางไซเบอร์ มากกว่า
แนวทางที่ 2 Professional Skills, Experience and Qualifications ทักษะ ความรู้และประสบการณ์ที่สำคัญต่องานรักษาความปลอดภัย ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบ คือ Hard Skills หรือความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับงาน ทั้งใช้โปรแกรมวิเคราะห์ความเสี่ยง ความเข้าใจ IoT และ Cloud Security เป็นต้น และอีกส่วนคือ Soft Skills หรือทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เช่น อุปนิสัยภายนอก ทัศนคติ การแก้ปัญหา การสื่อสาร และความฉลาดทางอารมณ์ เป็นต้น
วิธีที่ 3 Authorization Controls กำหนดสิทธิ์การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลตามต้องการ และเป็นไปตามข้อกำหนดพื้นฐานที่อนุญาต

กระบวนการเป็นอีกหนึ่งเสาหลักของการควบคุมคนและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งแรกที่องค์กรสามารถใช้กระบวนการเหล่านี้เพื่อปรับปรุงองค์กรและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์คือการจัดการระบบและนโยบาย การจัดการและนโยบายความปลอดภัยเครือข่ายเป็นหลักการสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทุกองค์กรควรทำความเข้าใจเพื่อใช้ในการป้องกันและตอบสนองต่อภัยคุกคามเครือข่าย
นอกจากนี้ยังสามารถใช้การกำกับดูแลด้านไอที ความเสี่ยง และการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมจำเป็นต้องพิจารณาถึงความสำคัญของความเสี่ยงด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและความเสี่ยงด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การกำกับดูแลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Governance IT Risk Management) การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพศ
ประการที่สาม คือกรอบมาตรฐานชั้นนำด้านความปลอดภัยหรือหลักการและแนวปฏิบัติที่ทุกองค์กรต้องทราบเพื่อช่วยป้องกันความเสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์ รวมถึง ISO 27001 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลระบบการจัดการความปลอดภัย การออกแบบและการดำเนินการด้านความปลอดภัยผ่านการประเมินความเสี่ยง จะระบุแนวทางการดำเนินงานและการจัดการ รวมถึงกรอบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ NIST หลักการบริหารความเสี่ยง และแนวทางปฏิบัติเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับแต่ละองค์กร ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ
เรื่องที่สี่คือการจัดการโดยบุคคลที่สาม เนื่องจากองค์กรสามารถใช้กรอบการจัดการบุคคลที่สามเพื่อใช้นโยบายความปลอดภัยข้อมูลบางอย่างเพื่อควบคุมและป้องกันความเสี่ยงของอาชญากรรมทางไซเบอร์
ประการสุดท้าย การตรวจสอบภายใน/ภายนอกหรือการตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยขององค์กรมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบว่าระบบรักษาความปลอดภัยทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยในการใช้งานจริง ในขณะที่การตรวจสอบภายนอกเป็นการตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย ฝ่ายที่ดำเนินการตรวจสอบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบรักษาความปลอดภัยขององค์กรเป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการโจมตีจากภัยคุกคามต่าง ๆ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้การโจมตีทางไซเบอร์กำลังเพิ่มขึ้น องค์กรจึงจำเป็นต้องเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อรองรับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงที ตัวอย่างเช่น
1. Endpoint Security, Detection and Response กระบวนการตรวจจับและค้นพบเหตุการณ์ที่น่าสงสัยในทันที สิ่งนี้ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใจภัยคุกคามโดยละเอียดล่าสุดและรับการแจ้งเตือนทันทีหากเกิดการโจมตีขึ้น ผ่าน กระบวนการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ และการตอบสนองอย่างรวดเร็ว
- ความปลอดภัยของเครือข่าย โครงสร้างพื้นฐาน และแพลตฟอร์ม โครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มที่ช่วยป้องกันภัยคุกคามจากการเข้าถึงภายนอกและการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต
- Web Application Firewall เครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันการโจมตีรูปแบบต่าง ๆ ภายในองค์กร โดยจะกรองและตรวจสอบแหล่งที่มาของ HTTP ที่ส่งไปยังเว็บไซต์เพื่อหาความผิดปกติ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ก็จะใช้มาตรการป้องกันเพื่อลดโอกาสในการโจมตีทางไซเบอร์
- Software Update/Patch ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเพื่อแก้ไขหรือแก้ไขข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ก่อนหน้า

- ประเมินความเสี่ยงและช่องโหว่ของการโจมตีทางไซเบอร์โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การสแกน VA การประเมินช่องโหว่ และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเชิงลึกภายในองค์กร เพื่อระบุปัญหาและจัดหาแนวทางแก้ไขเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังมี Pentest การประเมินช่องโหว่ประเภทหนึ่งผ่านการทดสอบการเจาะระบบเพื่อค้นหาช่องโหว่ในระบบ ต่าง ๆ
- การจัดการข้อมูลประจำตัวและการเข้าถึง การจัดการข้อมูลประจำตัวและการเข้าถึงจะควบคุมสิ่งที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้และไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น อีเมล ฐานข้อมูล ข้อมูล และแอปพลิเคชัน โดยแทรกแซงน้อยที่สุด เป้าหมายคือการจัดการการเข้าถึง เพื่อให้คนที่เหมาะสมสามารถทำงานให้สำเร็จและปฏิเสธการเข้าถึงของผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต (เช่น แฮ็กเกอร์)
- Cloud Security Cloud Security จะเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานคลาวด์ผ่านเกตเวย์ความปลอดภัยที่สามารถจัดการกับภัยคุกคามต่าง ๆ ในระบบคลาวด์ด้วย
- ความปลอดภัยและการป้องกันข้อมูล การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล เช่น การป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น
ติดตามเรื่องไอทีต้องรู้ : ข่าววงการไอที
ติดตามเทคโนโลยีเพิ่มเติม : guruit