รีวิว Infinix Note 30 5G
รีวิว Infinix Note 30 5G
รีวิว Infinix Note 30 5G ในปีนี้มีสมาร์ทโฟน 5G หลายรุ่นเปิดตัวสู่ตลาด และมีหลายรุ่นซึ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ถ้าอยากได้สมาร์ทโฟน 5G
สเปค Infinix Note 30 5G
- GPU มาลี-G57 MC2
- แรม 8GB
- แรม 128GB
- รองรับ 5G
- รองรับการ์ด microSD สูงสุด 2TB ผ่านช่องเสียบแยกต่างหาก
- กล้อง
- กล้องหลัง
- กล้องหลัก 108MP, 1/1.67 นิ้ว, รองรับ PDAF, แฟลช LED
- กล้องความลึก 2 ล้านพิกเซล
- กล้องปัญญาประดิษฐ์
- กล้องหน้า 16MP พร้อมแฟลช LED
- ชาร์จเร็ว 45W มีที่ชาร์จให้ในกล่อง
- ใช่วิทยุ FM
- รองรับ NFC
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- ขนาดเครื่อง 168.51 x 76.51 x 8.45mm.
- น้ำหนัก 204.7 กรัม
- เลือกจับคู่สี Symphony black/interstellar blue/sunset gold ได้
- โอเอส แอนดรอยด์ 13
- ราคาเปิดตัว 7,499 บาท
ซึ่งเป็นระดับที่ดีเลยทีเดียว และด้วยดีไซน์แบบเจาะรูสำหรับกล้องหน้าทำให้รุ่นนี้ดูทันสมัยสมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง
ส่วนควบคุมทั้งหมดจะอยู่ทางด้านขวา ได้แก่ ปุ่มควบคุมระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดสำหรับสแกนลายนิ้วมือ ด้านซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ด รุ่นนี้รองรับ 2 ซิมการ์ดและมีช่องเสียบการ์ด microSD แยกต่างหากซึ่งรองรับการ์ดหน่วยความจำเพิ่มเติมสูงสุด 2TB ด้านบนมีลำโพงเดี่ยวและโลโก้ JBL การันตีคุณภาพเสียงของรุ่นนี้
จุดเด่นอีกประการคือนอกเหนือจากการรองรับ 5G แล้ว สมาร์ทโฟน Infinix Note 30 5G ยังรองรับเทคโนโลยี Clever 5G 2.0 พร้อมระบบเพิ่มประสิทธิภาพช่องอัตโนมัติและเทคโนโลยี UPS หรือสัญญาณขั้นสูงที่พัฒนาโดย Infinix และสัญญาณเครือข่ายจะแรงขึ้นเมื่อเงื่อนไขอนุญาต ทรงพลัง สัญญาณอ่อน เช่น เมื่อใช้ลิฟต์ ที่จอดรถใต้ดินหรือนอกเมืองด้วยการออกแบบเสาอากาศใหม่และอัลกอริธึมพิเศษของค่าย ช่วยให้สลับเสาอากาศได้อย่างชาญฉลาดและเพิ่มความเร็วให้กับเครือข่าย นอกจากนี้ยังช่วยลดการแลคเมื่อเล่นเกม
นอกจากชิปเซ็ตแล้วยังทรงพลังอีกด้วย ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว และอีกสิ่งที่ทำให้เกมเมอร์พึงพอใจคือความพร้อมใช้งานของ RAM มากมายและพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม โดยนำเสนอ RAM ขนาด 8GB รวมกับ RAM เสมือนอีก 8GB รวมเป็น 16GB ซึ่งเทียบได้กับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงในยุค ตลาด. ซึ่งรวมถึงการมีที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 2TB ผ่านการ์ด microSD หนักมาก
อีกสิ่งหนึ่งที่นักรีวิวชื่นชอบเกี่ยวกับ Infinix Note 30 5G ก็คือมันมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว และมีอัตรารีเฟรชที่สูงกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ในกรณี 120Hz ด้วยงบเท่า ๆ กัน เพราะสมาร์ทโฟนระดับ 10,000 ราคาย่อมเยาส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 60-90Hz นอกจากนี้ยังมีความละเอียดคมชัดระดับ Full HD+2460×1080 พิกเซล และความสว่าง 580nits
ตัดสินจากการทดสอบเล่นเกมในเวลากลางวันสามารถกันแสงได้ดีมากและยังมีระบบโหมดถนอมสายตาซึ่งจะช่วยปกป้องสายตาของผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนที่มีแสงน้อย หน้าจอแสงสีฟ้า แสงสีฟ้าต่ำและการสั่นไหวของภาพลดลงช่วยลดอาการปวดตาจากการใช้หน้าจอเป็นเวลานาน
จุดเด่นอีกอย่างที่เราชอบคือให้แบตเตอรี่ในปริมาณที่พอเหมาะ มีความจุ 5,000mAh และรองรับการชาร์จ 45W ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับสมาร์ทโฟนระดับนี้ เนื่องจากเรือธงปัจจุบันบางรุ่นยังมีเพียง 25W และในกล่องพร้อมเครื่องชาร์จที่รวดเร็ว
ระบบชาร์จเร็วของ Infinix เป็นแบบดูอัลแชนเนลพร้อมปั๊มชาร์จแบบขนาน 2:1 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ตั้งแต่ 1-75% ในเวลาเพียง 30 นาที หรือเล่นเกมได้นานถึง 1.75 ชั่วโมงในเวลาเพียง 5 นาที
ติดตามเรื่องไอทีต้องรู้ : อุปกรณ์ไอทีมาแรง
ติดตามเทคโนโลยีเพิ่มเติม : guruit
