มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย

มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax ’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย

มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย

มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) ร่วมกับกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ประกาศยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มิถุนายน 2565 องค์การมหาชน (สนช.) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) พบว่าการลงทุนสตาร์ทอัพของไทยจะเติบโตแบบทวีคูณในไตรมาสแรกของปี 2566 สูงกว่า 530 ล้านเหรียญสหรัฐ

รายงานของ Nikkei Asia สะท้อนถึงการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของสตาร์ทอัพไทย พบว่ามีการลงทุน 530 ล้านดอลลาร์ในธุรกิจสตาร์ทอัพในไตรมาสแรกหลังจากการยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น ซึ่งมากกว่าในไตรมาสแรกของปี 2019 ก่อนเกิดโรคระบาด

มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย

นอกจากนี้ ข้อมูลของ Cento Report ยังพบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 การลงทุนด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย (Tech Investment) มีเพียง 2% และจะเพิ่มเป็น 6% ภายในสิ้นปี 2565 แสดงให้เห็นว่าการลงทุนในสตาร์ทอัพไทยกำลังเติบโตอย่างทวีคูณ

ปัจจุบัน ระบบนิเวศของสตาร์ทอัพในประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 52 ใน Global Startup Ecosystem Index ประจำปี 2566 ปัจจุบัน สิงคโปร์เป็นประเทศในเอเชียอันดับหนึ่ง (อันดับที่ 6) สำหรับเศรษฐกิจหมุนเวียนในระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ

เหตุผลหลักที่ทำให้สิงคโปร์นิยมในการร่วมทุนคือการคอร์รัปชันต่ำ การใช้เอกสารง่าย ประชากรจำนวนมากที่พูดภาษาอังกฤษ ดังนั้น การทำธุรกิจในสิงคโปร์จึงได้เปรียบประเทศตะวันตก

มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัล กล่าวว่า ข้อมูลของ Nikkei Asia สะท้อนความสำเร็จของสภาดิจิทัล ในฐานะผู้นำภาคเอกชนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและดิจิทัล เราจะทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมกฎหมายการยกเว้นภาษีผลได้จากทุน (Capital Gains Tax Exemption Law) 

และสนับสนุนให้สตาร์ทอัพไทยเพิ่มการลงทุน 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกของปี 2566 ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

“ประเทศไทยมีสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเพียง 1,000 ราย ในขณะที่สิงคโปร์มีสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเพียง 50,000 ราย จึงสามารถระดมทุนได้มากในแง่ของเทคโนโลยี ดังนั้น สภาดิจิทัลฯ จึงเห็นความสำคัญของการส่งเสริมการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพไทย

และผลักดันให้รัฐบาลแนะนำการยกเว้นภาษีกำไรจากการขายหุ้นซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้สตาร์ทอัพไทยพัฒนาความสามารถในการระดมทุนจากนักลงทุน”

มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย

ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว Digital Council ได้เข้าร่วมฟอรัมเครือข่ายนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – SVCA Conference 2023 ซึ่งจัดโดย Singapore Venture Capital and Private Equity Association และได้พบกับ Sequoia Capital ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทร่วมทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

และเป็นบริษัทร่วมลงทุนชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาดิจิทัลเน้นย้ำเชิญชวนให้ลงทุนในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยีเหมือนสิงคโปร์ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีนโยบายยกเว้นภาษีจากกำไรจากการขายหุ้น 0% ลดข้อจำกัดทางกฎหมาย ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว

ให้การยกเว้นภาษี 10 ปีหรือภาษีกำไรจากการขายหุ้นสำหรับนักลงทุนไทยและต่างชาติที่ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยมีจุดประสงค์เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล กำไรจากการขายหุ้น Startup ไทยจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนไทย

และต่างชาติผ่านธุรกิจเงินร่วมลงทุน (VC) สนับสนุน Startup ไทยในการระดมทุนเพิ่มเติม ตลอดจนส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยพร้อมพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพเพื่อเพิ่มโอกาสให้สตาร์ทอัพไทยเติบโตและก้าวสู่มาตรฐานสากล

มาตรการยกเว้น Capital Gains Tax’ กับการลงทุนสตาร์ทอัปในไทย

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา สภาดิจิทัลฯ ในฐานะองค์กรหลักที่ทำงานร่วมกับภาคเอกชน ภาครัฐ และภาครัฐ ได้ร่วมขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมสตาร์ทอัพและอุตสาหกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 

1) การยกเว้นภาษีกำไรจากการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพไทย 2) ภาษีเงินได้ 17% สำหรับชาวต่างชาติที่มีทักษะสูงเมื่อทำงานในประเทศไทย 3) ลดหย่อนภาษี 150% หรือ 50% ของค่าจ้างทักษะอาชีพดิจิทัล 4) ลดหย่อนภาษี 250% หรือ 50% ของทักษะดิจิทัล ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม 

5) Convertible Debt, ESOP และ Crowdfunding สำหรับ SME และ Startups 6) Live Exchange สำหรับ SME และ Startups 7) ลดหย่อนภาษี 200% สำหรับธุรกิจที่ซื้อซอฟต์แวร์ที่ผลิตในประเทศ 8) Thailand Innovation Account มีเงื่อนไขพิเศษสำหรับการจัดซื้อจัดจ้างโดยภาครัฐ 9) SMEs ถูกกีดกันในการประมูลโครงการของรัฐ

ติดตามเรื่องไอทีต้องรู้ : ข่าววงการไอที

ติดตามเทคโนโลยีเพิ่มเติม : guruit

ติดต่อสอบถาม และ เข้าร่วมกิจกรรม ได้ที่ LINE : @UFA656

โปรดยืนยันว่าคุณบรรลุข้อกำหนดด้านอายุตามกฎหมาย (18 ปีขึ้นไป) เพื่อดำเนินการต่อ